พรรณไม้ของสังคมพืชตามหน้าผา

 

เกาะต่างๆ ของหมู่เกาะแสมสาร มักปรากฎผาหินที่เกิดจากการกัดชะของคลื่นและลม โดยเฉพาะทางด้านทะเลนอก ผาบางแห่งเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ บางแห่งมีซอกหินเป็นที่สะสมของดินหรืออินทรีย์วัตถุเพียงเล็กน้อย ทำให้พรรณไม้บางชนิดสามารถขึ้นอยู่ได้ ทั้งไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้เถา และพืชล้มลุก ไม้ต้นและไม้พุ่มตามผาหินมีลำต้นแคระแกร็น กิ่งแขนงจะแผ่ราบไปกับหน้าผาตามแรงลม โคนต้นใหญ่ มีเหง้าแข็งแรง เกาะติดกับซอกหินอย่างมั่นคง

   

ตานหม่อน Vernonia elliptica    DC. (Compositae) ไม้เถา ขึ้นแทรกในซอกหินตามหน้าผาชัน ลำต้น แตกกิ่งแขนงระเกะระกะ ห้อยระย้าลงมาตามหน้าผา ใบเดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบหนา อวบน้ำ ด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีขาว ดอกเล็ก ออกเป็นช่อสีขาว

 

 

 

สลัดได หรือ กะลำพัก Euphorbia antiquorum   L. ( Euphorbiaceae) ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-5 เมตร ทุกส่วนมียางสีขาว ลำต้นรูปสาม-สี่เหลี่ยม อวบน้ำ มีหนามแข็งตามสัน มีเหลี่ยมเว้าคอดต่อกันเป็นระยะ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่ม ใบเดี่ยว ขนาดเล็ก ร่วงง่าย จึงดูคล้ายกับไม้มีใบ ต้นแก่มักจะเกิดแก่นแข็ง เรียกกะลำพัก มีกลิ่นหอม รสขม ใช้แก้ไข้ ยางมีพิษ ระคายเคืองผิวหนัง ใช้เป็นยากันหูด

 

 

ช้ามะขามป้อม Phyllanthus collinsae  Craib (Euphorbiaceae) ไม้พุ่ม ขึ้นได้ดีตามซอกหินของหน้าผาและโขดหินชายฝั่ง ใบเดี่ยวคล้ายใบมะขาม เรียงสลับกัน ดอกสีขาวออกเรียงแถวใต้ใบใกล้ปลายกิ่ง ผลกลม ผิวขรุขระ

   

ก้างปลา Cleistanthus hirsutulus  Hook.f. (Euphorbiaceae) ไม้พุ่มกึ่งไม้ต้นขนาดเล็ก เป็นพรรณไม้เด่นชั้นล่างของป่าดิบแล้งและขึ้นได้ตามซอกหินผา ลำต้นเป็นพุ่มแน่น แคระแกร็น เพราะแรงลม ใบเดี่ยว เรียงสลับ ดอกสีนวล ออกเป็นช่อกระจุกตามง่ามใบ ผลกลม มี 3 พู แตกออกเมื่อผลแก่

   

ระกำป่า Cathormion umbellatum  (Vahl) Kosterm.  (Leguminosae) ม้ต้นขนาดเล็ก เมื่อขึ้นตามซอกหินของผา ลำต้นแคระแกร็น กิ่งแผ่ราบไปตามหน้าผาด้วยแรงลม โคนและเหง้าใหญ่แข็งแรง ยึดซอกหินอย่างมั่นคง ช่อดอกสีขาวแผ่ออกคล้ายร่ม