เบญจมาศ
Chrysanthemum morifolium
Ramat., ASTERACEAE (COMPOSITAE)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: ไม้ล้มลุก สูง
0.5-1.2 ม. แตกกิ่งมาก
ผิวเปลือกต้นและกิ่งเป็นลายทางตามแนวยาว
ค่อนข้างเกลี้ยง
สีเขียวอมเทา ต้น กิ่ง
และใบมีกลิ่น ใบเดี่ยว
เรียงสลับ มีหลายรูปแบบ
ตั้งแต่ค่อนข้างกลมถึงรูปไข่หรือรูปใบหอก
กว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-5 ซม.
ปลายแหลม
โคนตัดหรือสอบแหลมคล้ายรูปลิ่มแกมรูปฐานหัวใจ
ขอบเว้าเป็นพู 3-5 พู
รูปกลมหรือรูปไข่
ขอบเว้าเป็นจักหยาบๆ
ปลายมนและเป็นติ่งเล็กๆ
แผ่นใบหยาบ
ด้านบนสีเขียวอมเทามีขนสีขาวประปราย
เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบสีขาวเด่นชัด
ด้านล่างสีเขียวอมเทามีขนหนาแน่นกว่าด้านบน
ก้านใบยาว 1.5-3 ซม. ช่อดอกออกที่ปลายกิ่งและตามง่ามใบบนๆ
มีใบประดับรูปแคบยาว
เส้นผ่านศูนย์กลางช่อดอก
2-5 ซม. ก้านช่อดอกยาว 5-10 ซม.
วงใบประดับแคบยาว
รูปขอบขนาน มีขนสีขาว
ดอกวงนอกเป็นดอกเพศเมีย
มี 1-2 ชั้น กลีบรูปลิ้น
สีขาวเหลืองหรือม่วง
ยาว 0.8-1.2 ซม.
ดอกกลางเป็นดอกสมบูรณ์เพศ
มีจำนวนมาก
ลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ
3 มม. ปลายเป็นแฉกเล็กๆ 5
แฉก สีเหลือง เกสรเพศผู้
5 อัน ขนาดเล็กมาก
อับเรณูยาวประมาณ 2 มม.
รังไข่เกลี้ยง
ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2
แฉก
ถิ่นกำเนิด :
สาธารณรัฐประชาชนจีน
และญี่ปุ่น
การกระจายพันธุ์ :
-
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: -
สภาพนิเวศน์ : -
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ :
ตัดชำกิ่งยอดและการแยกหน่อ
เป็นพืชช่วงวันสั้น
เมื่อนำมาปลูกในประเทศไทยซึ่งมีช่วงแสงสั้นกว่า
13
ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ
จึงออกดอกเร็ว
เป็นอุปสรรคต่อการตัดชำกิ่ง
จำเป็นต้องมีการเพิ่มแสงติดต่อกันให้นานกว่า
13 ชั่วโมงครึ่ง
เพื่อให้การเจริญเติบโตทางลำต้นสมบูรณ์เต็มที่ก่อนจึงลดช่วงแสงลงเป็นการกระตุ้นให้ออกดอกต่อไป
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538.
อนุกรมวิธานพืช อักษร ก.
กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.