กลอย
ชื่อพื้นเมือง :
กลอย มันกลอย (ทั่วไป),
กลอยข้าวเหนียว
กลอยหัวเหนียว (นครราชสีมา),
กลอยนก กอย (ภาคเหนือ),
คลี้ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dioscorea
hispida Dennst.
ชื่อวงศ์ : DIOSCOREACEAE
ชื่อสามัญ : -
ลักษณะ : ไม้เถา
เลื้อยพันไปบนต้นไม้อื่น
ส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินมีขนและหนาม
ใบประกอบเรียงสลับ
มีใบย่อย 3 ใบ ปลายแหลม
โคนสอบแคบ แผ่นใบกว้าง ดอกแยกเพศ
ดอกเพศผู้ไม่มีก้าน
อัดรวมกันแน่นบนช่อดอก
มีกลิ่นหอม
ดอกเพศเมียเรียงกันอยู่ห่างๆ
บนช่อดอก
ไม่มีก้านดอกเช่นกัน ผลยาวประมาณ
5 ซม. มี 3 ครีบ เมล็ดมีปีกเฉพาะที่โคน
หัวค่อนข้างกลม
ส่วนบนและส่วนล่างแบน
ไม่ฝังลึกลงในดิน
ส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินมักเป็นลอนตื้นๆ
หัวมีขนาดต่างๆ กัน
ผิวสีฟางหรือเทา
เนื้อในสีขาวถึงขาวนวล
ประโยชน์ :
หัวกลอยใช้เป็นอาหารได้
ก่อนนำมากินจะต้องล้างสารพิษออกให้หมด
โดยฝานหัวกลอยเป็นชิ้นบางๆ
นำมาแช่ในน้ำเกลือแล้วถ่ายน้ำทิ้งหลายๆ
ครั้ง
หรือแช่ในน้ำไหลเพื่อให้น้ำชะล้างสารพิษออกให้หมด
เพราะ dioscorine
เป็นแอลคาลอยด์ที่ละลายได้ดีในน้ำ
ชาวป่าบางเผ่านำน้ำที่คั้นจากหัวกลอยมาผสมกับยางของต้นน่อง
(Antiaris toxicaria Lesch.)
อาบลูกดอกเพื่อใช้ยิงสัตว์
ในหัวกลอยยังมีแป้งในปริมาณสูง
ในอินเดียนำมาเตรียมเป็นแป้งในทางอุตสาหกรรม
โทษ :
หัวกลอยเป็นพิษ
สารพิษที่พบในหัวกลอย
คือ dioscorine
ซึ่งเป็นแอลคาลอยด์กลุ่ม
tropane กลุ่มเดียวกับ hyoscine
ที่พบในใบ ราก ดอก
และเมล็ดลำโพง พิษของ
dioscorine
จะทำให้ระบบประสาทกลางเป็นอัมพาต
การกินหัวกลอยที่ยังไม่ได้ล้างเอาสารพิษออกอาจทำให้เกิดพิษ
ปวดแสบปวดร้อนที่ปากและคอ
คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง
หายใจขัด หมดสติ
และถ้ากินมากอาจทำให้ถึงตายได้หลังจากที่กินแล้วประมาณ
6 ชั่วโมง