กางหลวง
Albizia chinensis
(Osbeck) Merr., LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
สูง 15-25 ม. ลำต้นใหญ่
แตกกิ่งต่ำ
เรือนยอดแผ่กว้างคล้ายรูปร่ม
เปลือกเรียบ
สีเทาคล้ำหรือเทาอมน้ำตาล
กิ่งอ่อนมีขนประปราย
กิ่งแก่ค่อนข้างเกลี้ยง
ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น
เรียงสลับ
แกนกลางใบประกอบยาว 10-30
ซม. หูใบเป็นแผ่น
กว้างประมาณ 3 ซม.
ยาวประมาณ 5 ซม. ร่วงง่าย
ใบประกอบแยกแขนง 4-15 คู่
ยาว 4-12 ซม.
ตรงรอยต่อระหว่างแกนกลางใบประกอบกับแขนงมีต่อมนูนสีคล้ำชัดเจน
ตามแขนงมีใบย่อยเล็กๆ
เรียงตรงข้ามกัน 20-35 คู่
รูปขอบขนาน กว้างประมาณ
3 มม. ยาวประมาณ 1 ซม.
ปลายแหลมเป็นติ่งสั้นๆ
โคนมนเบี้ยว ขอบเรียบ
แผ่นใบทั้ง 2
ด้านมีขนประปราย
โดยเฉพาะบริเวณเส้นกลางใบและขอบใบ
เส้นแขนงใบด้านข้างปรากฎชัดเจน
ไม่มีก้านใบย่อย ช่อดอกออกตามปลายกิ่ง
แตกแขนง ยาว 12-18 ซม.
มีขนประปราย
โคนก้านช่อมีหูใบเป็นแผ่นติดอยู่
เมื่อดอกบานเต็มที่ช่อดอกกว้าง
3-4 ซม.
ช่อดอกประกอบด้วยช่อกลมหลายช่อ
แต่ละช่อมีดอกเล็กๆ
ที่ไม่มีก้านจำนวน 10-20
ดอก อัดกันแน่น สีขาว
กลีบเลี้ยง 5 กลีบ
ติดกันเป็นหลอด ยาว 3-5 มม.
ปลายแยกเป็นแฉกรูปสามเหลี่ยม
5 แฉก มีขนเล็กน้อย
กลีบดอก 5 กลีบ
ติดกันคล้ายรูปแตร ยาว
0.7-1 ซม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก
ยาว 2-3 มม. มีขนประปราย
เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก
ก้านชูอับเรณูติดกันเป็นหลอด
ยาวไล่เลี่ยกับหลอดของกลีบดอกหรือยาวกว่าเล็กน้อย
รังไข่แบนยาว ฐานไม่คอด ฝักแบน
รูปขอบขนาน
คล้ายฝักกระถิน กว้าง 1.5-2
ซม. ยาว 10-16 ซม.
ปลายฝักแหลมเป็นติ่ง
ผนังหนา
สีน้ำตาลอมเขียว
ฝักแก่ไม่แตก
มีหลายเมล็ด เมล็ดรูปรีแบน
กว้าง 4-5 มม. ยาว 7-8 มม.
หนาประมาณ 1 มม.
เรียงเป็นแถวเดี่ยวตามยาวของฝัก
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
ภูมิภาคเอเชียเขตร้อนและกึ่งร้อนทั่วไป
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคตะวันตกเฉียงใต้,
เชียงใหม่, แพร่, น่าน,
ลำปาง, พิษณุโลก, เลย,
กาญจนบุรี
สภาพนิเวศน์ :
ขึ้นตามริมลำธาร
ที่โล่งในป่าเบญจพรรณชื้น
บนภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
500 ม. ขึ้นไป
พบทั่วไปตามชายป่าดิบเขาจนถึงระดับประมาณ
1,800 ม.
จัดเป็นพรรณไม้เบิกนำ
(pioneer species)
ที่โตเร็วชนิดหนึ่งของป่าดิบเขา
ขึ้นปกคลุมพื้นที่ที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งบนภูเขาได้ดีเมื่อไม่มีไฟป่ารบกวน
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.
2) Smitinand, T. and Larsen, K. 1985. Flora of Thailand
(Vol.4: 2). Bangkok: TISTR Press.