กูดฮอก
Drynaria sparsisora
(Desv.) Moore, POLYPODIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: เฟิร์นอิงอาศัย
เหง้าทอดยาว
เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
1.5 ซม. มีเกล็ดหนาแน่น
เกล็ดรูปขอบขนานแกมรูปไข่
กว้างประมาณ 2 มม.
ยาวประมาณ 3 มม.
โคนแบบก้นปิด ปลายแหลม
ขอบสีน้ำตาลหยักซี่ฟัน
ไม่แข็ง
ตอนกลางสีน้ำตาลดำ ใบเดี่ยว
มีรูปร่างต่างกัน 2 แบบ
ใบไม่สร้างอับสปอร์รูปไข่ถึงรูปไข่แกมรูปขอบขนาน
กว้าง 16-22 ซม. ยาว 17-23 ซม.
ขอบหยักเว้าแบบขนนกลึกครึ่งหนึ่งของระยะทางจากขอบใบถึงเส้นกลางใบ
ทำให้ใบมีลักษณะเป็นแฉก
แฉกรูปขอบขนานแกมรูปกึ่งสามเหลี่ยม
กว้างประมาณ 4 ซม.
ยาวประมาณ 6 ซม. ปลายแฉกมน
ขอบเรียบ ไม่มีก้านใบ
ใบไม่สร้างอับสปอร์ยังคงติดอยู่กับเหง้าได้นานจนกว่าจะผุพังไปตามกาลเวลา
ใบสร้างอับสปอร์รูปขอบขนาน
กว้าง 25-35 ซม. ยาว 40-50 ซม.
ปลายแหลม
โคนแผ่เป็นปีกทาบติดกับก้านใบ
ขอบหยักเว้าลึกจนเกือบถึงเส้นกลางใบทำให้ใบเป็นแฉก
แฉกรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก
กว้างประมาณ 5 ซม.
ยาวประมาณ 20 ซม.
ปลายแฉกเรียวแหลมและเป็นเส้นยาว
ขอบแฉกเรียบ
เส้นกลางใบนูนเป็นสันเห็นชัดเจนทั้ง
2 ด้าน
เส้นใบย่อยสานกันเป็นร่างแห
6-8
แถวระหว่างเส้นกลางแฉก
แผ่นใบเหนียว เรียบ
ก้านใบยาว 12-18 ซม. กลุ่มอับสปอร์รูปกลม
อยู่บนเส้นใบย่อยที่สานกันเป็นร่างแห
เรียงตัวกระจัดกระจายทั่วไปบนแผ่นใบ
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ภูมิภาคโปลินีเซีย
และเขตร้อนของออสเตรเลีย
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: ภาคตะวันออก
ภาคตะวันออกเฉียงใต้
และภาคใต้
สภาพนิเวศน์ :
ขึ้นเกาะบนต้นไม้ใหญ่ในป่าดิบทึบหรือในที่ค่อนข้างร่ม
บนพื้นที่ระดับต่ำถึงที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
800 ม.
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.