การสร้างเขื่อน     ทรงเล่นขุดดินเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ สำหรับเก็บน้ำ ทรงขุดคลอง ทรงนำน้ำมาใส่ในแอ่งให้ไหลไปตามคลอง และทรงนำกิ่งไม้ที่พุ่มไม้มาปลูกไว้ริมคลอง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิพนธ์ว่า " นี่คือการสัมผัสครั้งแรกกับงานชลประทานและการปลูกป่า" และทรงพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า "..ทั้งสองพระองค์สนพระทัยในการกั้นน้ำสร้างเขื่อน แต่เพิ่งได้ทราบว่าไม่ใช่เป็นเพียงการเล่น แต่ยังเน้นการเรียนรู้อีกด้วย หลังจากที่ได้ไปกราบทูลสัมภาษณ์ปลายปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ เมื่อรัชกาลที่ ๙ ยังทรงพระเยาว์มาก คือเมื่อประทับอยู่โรงเรียน เลอ ฟัวเย่ ที่ Les Pleiades เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๗ และพุทธศักราช ๒๔๗๘ ได้ทรงสังเกตและจำวิธีที่เขาใช้ในการนำน้ำมาใส่ในอ่างให้เด็กเล่น เขาไปเอาน้ำมาจากลำธารที่ไหลใกล้ๆ ทำทางทางตื้นๆ ให้น้ำไหลลงมาได้ เอาดินเหนียวใส่ลงไปในทางและเอาไปถูให้เรียบ

ช่างกล   ทรงสามารถแก้ไขจักรเย็บผ้าของพระพี่เลี้ยงที่ชำรุดให้สามารถใช้การได้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า "..เรื่องทรงแก้จักรเย็บผ้าให้แหนนนั้น มีผู้เล่ามาแล้ว แต่ขอเล่าอีกครั้งหนึ่งอย่างที่แม่เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง ตามปรกติแม่ไม่ยอมให้ใครให้ของลูกๆ นอกจากจะเป็นวันเกิดหรือปีใหม่ วันหนึ่งแม่เห็นพระอนุชาเล่นรถคันใหม่อยู่ เมื่อทราบว่าแหนนเป็นผู้ให้ ก็ไปถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แหนนก็ตอบว่ามาแก้จักรเย็บผ้าให้ จึงต้องให้รางวัลไป.."

ช่างไฟฟ้า   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องวิชาไฟฟ้ามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อพระชนมพรรษาได้ ๑๑ พรรษา ได้เคยทรงทดลองนำรถไฟฟ้าของเล่นจากพระตำหนักลงมาเล่นที่สนามได้  โดยใช้เส้นลวดทองแดงเส้นเล็กๆ เส้นเดียวเสียบเข้าที่เต้ารับบนตำหนักแล้วล่ามลงมา เพื่อต่อกับรถไฟฟ้าในสนามให้วิ่งได้โดยไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า ๒ สายอย่างปรกติ ซึ่งแสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถที่ทรงทราบถึงหลักวิชาระบบไฟฟ้าสายเดียว ที่ถือว่าพื้นดินเป็นสายนำไฟฟ้าให้ครบวงจรได้สายหนึ่ง ต่อมาเมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษาได้ประมาณ ๒๐ พรรษา ก็ทราบว่า มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่งได้ทำการทดลองไฟฟ้าสายเดียวเช่นกัน

การสื่อสาร   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องวิทยุเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า " ในด้านวิทยุ ทรงเล่าให้ฟังว่า ที่บ้านไม่ทรงมีสิทธิที่จะแตะต้อง มีไว้ฟังข่าวเท่านั้น แต่เมื่ออายุได้สัก ๑๐ ปีได้ ก็มีโอกาสสร้างของตัวเองขึ้นมาได้ ที่โรงเรียนมีการขายสลากในงานของโรงเรียนงานหนึ่ง ท่านก็ได้สลากเป็นคอยล์ (coil) ท่านก็ศึกษาถามผู้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะเป็นวิทยุออกมาได้ เขาก็บอกให้ท่านซื้อแร่สีดำ (galena หรือ galenite หรือ Pbs) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเครื่อง คือที่รับไฟฟ้าในอากาศที่เป็นคลื่นวิทยุ และหูฟังอีกคู่หนึ่ง ทั้งหมดราคาประมาณ ๑๐ แฟรงค์ มาต่อกันอย่างไรไม่ทราบ ทรงสามารถฟังวิทยุที่เขาส่งได้ ยังแบ่งกันฟังคนละหูกับพระเชษฐา ต่อไปพระเชษฐาก็ซื้อของพระองค์เอง"
          " เมื่อเสด็จกลับเมืองไทยปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ มีบริษัทถวายเครื่องวิทยุ Phillip เครื่องหนึ่ง แต่รัชกาลที่ ๘ ทรงนำกลับมาที่โลซานน์ด้วย ตอนแรกๆ ก็ทรงฟังอยู่ด้วยกันเพราะบรรทมห้องเดียวกัน แต่ต่อมารัชกาลที่ ๘ ทรงย้ายห้องและทรงทิ้งวิทยุไว้กับพระอนุชา และทรงต่อลำโพงไปเพื่อส่งรายการวิทยุไปถวายพระเชษฐาด้วย วันหนึ่งข้าพเจ้าอยู่ในห้องของข้าพเจ้า เล่นแผ่นเสียงบนเครื่องไฟฟ้าซึ่งต้องนำเสียงไปออกลำโพงของวิทยุ พระอนุชาพอดีเปิดวิทยุของท่านและคิดว่าสถานีอะไรกันเล่นแผ่นเสียงเหมือนกับแผ่นเสียงของพี่เรา ตั้งแต่นั้นมาก็ทรงเข้าพระทัยว่าระบบไฟฟ้านั้นมันติดต่อกันได้หมด