การช่าง  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงจำลองแบบเรือต่างๆ ด้วยไม้ เช่น เรือรบหลวงศรีอยุธยา เรือใบ ตลอดจนเรือบิน ต่อมาได้พระราชทานเรือรบหลวง
ศรีอยุธยาจำลองและเรือบินจำลองไปประมูลเพื่อการกุศล
          เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยและทรงพระปรีชาสามารถในด้านวิศวกรรมตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น จึงทรงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ในแผนกวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาสหวิทยาศาสตร์และแขนงวิชาวิศวกรรมศาสตร์
          ในวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานัทนมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จสวรรคตโดยกระทันหัน รัฐบาลได้กราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูพลอดุลยเดช" เนื่องจากมีพระชนมพรรษาเพียง ๑๙ พรรษา รัฐบาลจึงได้แต่ตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งประกอบด้วย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมขุนชัยนาทนเรนทร และพระยามานวราชเสวี  ต่อมาในเดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๙  ได้เสด็จฯ กลับไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม แต่ทรงเปลี่ยนแนวการศึกษาใหม่ ให้เหมาะกับที่จะต้องทรงรับพระราชภาระในฐานะประมุขของประเทศ โดยทรงศึกษาวิชากฏหมายและวิชารัฐศาสตร์แทนวิชาในแผนกวิทยาศาสตร์ที่รงศึกษาอยู่เดิม
           เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทยอีกครั้ง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง  เฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฎว่า " พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราชโองการว่า

" เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม  เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม "

          เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการมหาพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาในหม่อมเจ้านักขัตมงคล กิติยากร กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร มีพระราชโอรสและพระราชธิดา ๔ พระองค์ คือ
          ๑.  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  ประสูติเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๔
          ๒.  สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์  ประสูติเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๑๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวิชราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร
          ๓.  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ประสูติเมื่อวันที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๘ ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๒๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณานุกรปิยะชาติ สยามบรมราชกุมารี 
          ๔.  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประสูติเมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๐

          นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ เป็นต้นมาจวบปัจจุบัน  ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์  ระหว่าพุทธศักราช ๒๔๙๕ - ๒๕๐๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ทรงทราบถึงความทุกข์ยากของราษฎรที่เกิดจากปัญหาความยากจน ความเจ็บป่วย และขาดความรู้ ขาดการศึกษา จึงทรงมุ่งมั่นที่จะทรงพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น พออยู่พอกิน และสามารถเลี้ยงตัวเองได้ อันเป็นที่มาของโครงการส่วนพระองค์และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ในปัจจุบันมีจำนวนมากว่า ๒,๔๐๐ โครงการ  กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งในเขตชนบทและเขตในเมืองใหญ่
          ในการพัฒนาเพื่อให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำความรู้ทางสาขาวิทยาศาสตร์ที่ทรงพระปรีชาสามารถตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ และเทคโนโลยีในทุกสาขาวิชา มาใช้ในการพัฒนาทุกด้าน  ทั้งเทคโนโลยีชั้นสูง และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับใช้อย่างง่ายๆ ราษฎรสามารถเรียนรู้ เข้าใจ และนำไปใช้ได้ด้วยตนเอง