กรรณิการ์
Nyctanthes arbortristis
L.
(OLEACEAE)
ขอแนะนำดอกไม้อย่างหนึ่งมีกล่าวไว้ในกาพย์กลอนของเราบ่อยๆ คือ ดอกกรรณิการ์ บางทีเรียก "กรณิการ์" พระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ 1 มีกล่าวถึงดอกกรรณิการ์ไว้ดังนี้
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานอธิบายว่า กรรณิการ์ เป็นต้นไม้ยืนต้น ชื่อภาษาละตินว่า (Nyctanthes arbortristis ) ใบคาย ดอกหอม กลีบขาว ตรงโคนเป็นหลอดสีแสด ใช้ย้อมผ้า นี่ก็แสดงว่า แต่เดิมก่อนที่จะมีสีย้อมผ้า ดอกกรรณิการ์ใช้ประโยชน์แทนสี เช่นเดียวกับแก่นขนุนที่ใช้ต้มเอาน้ำย้อมผ้าเหลืองเรียกว่ากรัก หรือต้นคำ ที่ใช้เมล็ดย้อมผ้าอย่างในบทเห่กล่อมเด็กว่า " วัดเอยวัดนอกมีแต่ดอกแคแดง ดอกคำยิ่งแพง สาวน้อยจะห่มสีชมพู " ต้นไม้อื่นที่ดอก เปลือก และแก่นนำมาใช้ย้อมสีได้คงมีอีกมาก
ดอกไม้หอมเมืองไทย...เรืองอุไร กุศลาศัย
กรรณิการ์เป็นไม้พุ่มค่อนข้างโปร่ง สูง 1.5-2.5 ม. กิ่งเป็นหลี่ยมผิวหยาบและเปราะหักง่าย ใบเป็นใบเดี่ยว รูปคล้ายรูปไข่ ขนาดยาว 4-8 ซม. ปลายแหลม ขอบใบอาจจะเรียบหรือเป็นจัก ให้ดอกเกือบตลอดปี ขนาดดอก 1.5-2 ซม. กลีบเป็นแฉกสีขาว 5 แฉก ปลายบิดเวียนเล็กน้อย หลอดดอกตรงสีแสดยาวประมาณ 1 ซม. ดอกบานและมีกลิ่นหอมในเวลากลางคืน ครั้นถึงเวลาเช้า ดอกจะร่วงลงเกลื่อนใต้ต้น ดังเช่นที่กล่าวไว้ในวรรณคดีเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์รัชการที่ 2 ดังนี้
คนไทยสมัยก่อนนอกจากจะใช้หลอดกลีบดอกย้อมผ้าแล้ว ยังนิยมนำมาร้อยเป็นสาย และผูกกันเป็นพวงอุบะได้สวยงามมาก พันธุ์ไม้ชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือ โดยการตอนกิ่ง ปลูกเลี้ยงได้ดีในที่น้ำไม่ขัง และมีร่มเงาเล็กน้อย ถิ่นเดิมแถบเอเชียตอนใต้
|