|  
 
  
 
  
 
  | 
							
							
							
							ยางเหียง 
							
							ชื่อวิทยาศาสตร์ 
							: 
							
							 Dipterocarpus
							obtusifolius
							Teijsm. ex Miq.วงศ์ : 
							Dipterocapaceae
 ชื่อสามัญ 
							:
 ชื่ออื่น :  
							
							
							กุง (มลายู-ภาคใต้); เกาะสะเตียง (ละว้า-เชียงใหม่); 
							คร้าด (โซ่-นครพนม); ตะแบง (ภาคตะวันออก); ตะลาอ่ออาหมื่อ, 
							ล่าทะย่อง (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่); ตาด (พิษณุโลก, 
							จันทบุรี); ยางเหียง (ราชบุรี, จันทบุรี); สะแบง 
							(อุตรดิตถ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); สาละอองโว 
							(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี); เห่ง (ลัวะ-น่าน); เหียง 
							(ทั่วไป); เหียงพลวง, เหียงโยน (ประจวบคีรีขันธ์)
 
							
							ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : 
							 เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดใหญ่สูง 
							10-20 เมตร ใบเดี่ยวรูปไข่ ขนาดใหญ่ กิ่งอ่อน 
							และใบมีขนสีขาวปกคลุม ดอกสีชมพู ออกดอกเป้นช่อตามซอกใบ 
							ผลกลม มีกลีบเลี้ยง เป็นปีกติดอยู่ 2 ปีก 
							เกิดตามป่าเต็งรังทั่วไปมีการขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ดประโยชน์ :  
							เป็นไม้ที่คนอีสานนิยมนำมาใช้ในการสร้างบ้าน 
							สร้างคอกสัตว์ นอกจากนี้ยังใช้เป็นสมุนไพรด้วย ใบ 
							ต้มกับเกลือเล็กน้อยแก้ปวดฟัน แก้ฟันโยกคลอน ใบ,ยาง 
							กินเป็นยาตัดลูก ยาง สมานแผล แก้หนอง ขับเสมหะ 
							ขับปัสสาวะ รักษาแผลในทางเดินปัสสาวะ แก้ตกขาว 
							เปลือกต้น ต้มดื่มแก้ท้องเสีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 |   |