กระบาก
Anisoptera costata Korth., DIPTEROCARPACEAE


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 20-30 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ลำต้นเปลา โคนต้นมักเป็นพอน เปลือกหนาสีน้ำตาลแกมเทา แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ด เปลือกในเป็นชั้นๆ สีเหลืองอ่อนปนน้ำตาล กระพี้สีขาวปนเหลือง แก่นสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อนจนถึงน้ำตาลคล้ำ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนาน กว้าง 3-8 ซม. ยาว 6-17 ซม. ปลายมนหรือแหลมเป็นติ่งสั้นๆ โคนมนหรือเว้าเล็กน้อย ส่วนใหญ่โคนใบแคบกว่าปลายใบ ขอบเรียบ เส้นแขนงใบข้างละ 12-19 เส้น ปลายเส้นจรดกันก่อนถึงขอบใบ แผ่นใบหนา ด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนสีน้ำตาลอมเหลือง ก้านใบยาว 1.3-1.6 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ยาวประมาณ 10 ซม. ดอกเล็ก สีขาวอมเหลือง เมื่อบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ก้านช่อดอก ก้านดอก และกลีบเลี้ยงมีขนนุ่ม กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เรียวแหลม ความยาวของกลีบไล่เลี่ยกัน โคนติดกันเป็นหลอด โคนหลอดเชื่อมติดกับฐานรังไข่ กลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนเวียนกัน เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก อับเรณูรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 2 มม. รังไข่มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ผลกลม มีปีก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ปีกยาวรูปไข่กลับ มี 1 คู่ กว้าง 1-2 ซม. ยาว 3-10 ซม. โคนสอบเรียว เส้นปีกตามยาว 3 เส้น เห็นเด่นชัด ปีกสั้นมี 3 ปีก เรียวแหลม ยาวประมาณ 1.5 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกับผิวของผล


ถิ่นกำเนิด : -


การกระจายพันธุ์ : พม่า ภูมิภาคอินโดจีน มาเลเซีย และฟิลิปปินส์


การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย : ทั่วทุกภาค


สภาพนิเวศน์ : ขึ้นตามลาดเขาและริมลำธารในป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณชื้น บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 100-400 ม.


เวลาออกดอก : เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์


เวลาออกผล : -


การขยายพันธุ์ : -


ความเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ : -


อ้างอิง : 1) ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก. กรุงเทพมหานคร: เพื่อนพิมพ์.