กระบากทอง
Anisoptera curtisii Dyer ex King, DIPTEROCARPACEAE


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15-30 ม. ลำต้นเปลา เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกสีน้ำตาลแกมเทา แข็งและแตกเป็นร่องลึกไปตามยาวของลำต้น ตกชันสีขาว กิ่งอ่อนและใบอ่อนมีขนเป็นกระจุกแน่น ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรี รูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนาน กว้าง 3-5.5 ซม. ยาว 5-9.5 ซม. ปลายใบกว้าง ปลายสุดแหลมเป็นติ่งสั้นๆ และมักหักพับไปทางใดทางหนึ่ง โคนมนหรือเว้าเล็กน้อย ขอบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา ด้านบนเกลี้ยง เมื่อแห้งสีน้ำตาลอมแดง เส้นกลางใบเป็นร่องลึก ด้านล่างมีขนนุ่มหรือเกลี้ยงและมีเกล็ดสีเหลือง เมื่อแห้งสีค่อนข้างเหลือง เส้นแขนงใบข้างละ 12-20 เส้น ค่อนข้างตรงและปลายเส้นจรดกันก่อนถึงขอบใบ ก้านใบยาว 1.5-3.5 ซม. มีขนเป็นกระจุกทั่วไป ช่อดอกแบบช่อกระจะ ยาวไม่เกิน 15 ซม. ห้อยลง ช่อหนึ่งๆ มี 3-10 ดอก กลีบเลี้ยงแหลมและมีขนเป็นกระจุกทั่วไป กลีบดอกสีขาว รูปใบหอก ยาวประมาณ 5 มม. มักบิดเบี้ยวและปลายกลีบพับกลับ เกสรเพศผู้มีประมาณ 25 อัน รังไข่ค่อนข้างกลม ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.3 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม มีปีกยาวรูปใบพาย 2 ปีก เส้นปีก 3 เส้น


ถิ่นกำเนิด : -


การกระจายพันธุ์ : พม่า มาเลเซีย สุมาตรา และบอร์เนียว


การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย : ภาคใต้


สภาพนิเวศน์ : ขึ้นตามป่าดิบบริเวณใกล้ริมน้ำ บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100 ม.


เวลาออกดอก : -


เวลาออกผล : -


การขยายพันธุ์ : -


ความเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ : -


อ้างอิง : 1) ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก. กรุงเทพมหานคร: เพื่อนพิมพ์.