กระบกกรัง
ชื่อพื้นเมือง
: กระบกกรัง
ตะเคียนหนู (น่าน),
กระบากดำ (ตรัง),
ตะเคียนขี้ไก่ (พังงา),
ปราง (กำแพงเพชร), หงอนไก่
(สุราษฎร์ธานี, ตรัง),
หงอนไก่หลังขาว (สุราษฎร์ธานี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hopea
helferi (Dyer) Brandis
ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE
ชื่อสามัญ : -
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
สูง 15-30 ม.
เรือนยอดรูปกรวยคว่ำหรือรูปทรงกระบอก
ใบเดี่ยว
เรียงสลับ รูปขอบขนาน
ขนาดไม่ค่อยแน่นอนนัก
ปลายมนหรือหยักคอดเป็นติ่งแหลมสั้นๆ
โคนเบี้ยวและหยักเว้า
เส้นแขนงใบข้างละ 12-15
เส้น
เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได
ใบอ่อนสีน้ำตาลอมม่วง ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง
ออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ตามง่ามใบและตามปลายกิ่ง
ดอกเล็ก สีเหลืองอ่อน
กลิ่นหอม
เรียงเป็นแนวเดียวกันบนก้านแขนงช่อ
กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ
5 กลีบ
กลีบดอกเรียงซ้อนเวียนกันคล้ายกังหัน
ผลเล็ก รูปไข่ มีปีกยาว 2
ปีก ปีกสั้น 3 ปีก
ปีกยาวมีเส้นตามยาวของปีก
7 เส้น เมล็ดแข็ง
รูปไข่
ประโยชน์ :
เนื้อไม้ละเอียดปานกลาง
แข็ง เหนียว เสี้ยนหยาบ
ไสกบตกแต่งค่อนข้างยาก
ขัดเงาได้ดีพอสมควร
นิยมใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่ม
เช่น เสา คาน รอด ตง
โทษ : -