หลักฐานทางศิลปะและโบราณวัตถุ


<< back



แหล่งอารยธรรมของกรีซบนแผ่นดินใหญ่นั้นก็พบว่ามีหลักฐานทางโบราณวัตถุเช่นกัน ซึ่งอยู่ในรูปของภาชนะ ถ้วยโถโอชามเครื่องใช้ต่างๆ หลักฐานเกี่ยวกับมะกอกโอลีฟยุคก่อนคริสตกาล 2000 ปีนั้น ค้นพบที่เพโลพอนนิซัส ประกอบด้วย คนโท ซึ่งตกแต่งด้วยภาพวาดที่แสดงทัศนียภาพระหว่างที่มีการเก็บเกี่ยวลูกมะกอก โดยฝีมือของจิตรกร Antimenes และในยุคของนักกวีกรีกโบราณ Aeschylus และ Homer นั้นก็มีภาพแกะสลักเทพเจ้าและเทพยดาบนต้นมะกอก อันเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งในโบสถ์เอเธนนาของกษัตริย์อิเรคเธียม ผู้เป็นที่เคารพบูชาของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ส่วนพิพิธภัณฑ์ในกรุงแมดริด มีเหยือกทรงระฆังใบหนึ่งที่ตั้งโชว์อยู่ ซึ่งวัตถุโบราณชิ้นนี้มากจากแมกนากรีเซียใมัยเมื่อ 340 ปีก่อนคริสตกาล และเหยือกใบนี้ได้แสดงเรื่องราวการประลองกำลังระหว่างเทพสององค์คือ  Poseidon และ Athena  เพื่อแย่งชิงเมือง Attica
          ที่พิพิธภัณฑ์แห่งเดียวกันในกรุงแมดริด พบว่ามีเครื่องมืออย่างหนึ่งในสมัยกรีกโบราณ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งนักกีฬาในสมัยนั้นใช้สำหรับขุดน้ำมันและผงทรายออกจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในยุคโบราณนั้น ภาชนะที่ทำขึ้นส่วนมากใช้สำหรับใส่น้ำมันนวดตัว เพราะน้ำมันเหล่านี้ช่วยให้กล้ามเนื้อของนักกีฬาคงความยืดหยุ่น นอกจากนี้ น้ำมันยังใช้เป็นเครื่องบำรุงผิวสำหรับสตรี และใช้ชะโลมผมบนศีรษะ ช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนักและงามสลวย รวมทั้งใช้กับผิวอันบอบบางของทารกอีกด้วย 

                มีหลักฐานจากโบราณวัตถุมากมายที่ทำให้เราทราบว่าในสมัยพูนิคนั้น ได้มีการนำเอาน้ำมันมะกอกไปใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ตัวอย่างเช่น คนโทสมัย 600 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งขุดพบที่เกาะไอบิซาของประเทศสเปน รวมทั้งยังมีวัตถุโบราณอย่างเช่น คนโทสำหรับใส่น้ำมัน โคมไฟ โมเสก ฯลฯ ในสมัยโรมัน ที่แสดงว่าสังคมในสมัยนั้นมีการใช้น้ำมันในหลายวัตถุประสงค์ ที่บริเวณภูเขาเทสดัคซิโอ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำไทเบอร์ ใกล้ๆ กรุงโรมนั้น ปรากฎว่ามีเเศษชิ้นส่วนของคนโทที่ใช้เพื่อบรรจุน้ำมันขนย้ายไปมาระหว่างฮิสปาเนียกับเมืองหลวง  และคนโทเหล่านี้เองที่เป็นสิ่งที่ช่วยให้การค้าขายน้ำมันที่มีคุณลักษณะพิเศษนี้เป็นจริงขึ้นมาได้  แม้กระทั่งในช่วงสามร้อยปีแรกของคริสตกาล คนโทชนิดนี้ก็ยังคงใช้เป็นภาชนะบรรจุอยู่เรื่อยมา ประมาณกันว่ามีคนโทมากกว่า 40 ล้านใบทีเดียวที่ฝังตัวอยู่ในดินแดนเหล่านี้ และเป็นคนโทซึ่งมีบทบาทสำคัญยิ่ง
          ประเพณีที่สืบต่อกันมายาวนานที่กล่าวมาข้างต้นนี้ไม่เคยแม้สักครั้งที่จะสะดุดหยุดลง และแม้ในยุคหลังก็ตาม พยานหลักฐานก็ยังมีปรากฎให้เห็นอยู่เสมอไม่เคยว่างเว้น เรามีงานศิลปะภาพถ่ายที่ชื่อว่า Bestiary of Majorca ซึ่งมีทั้งภาพชุดจำนวน 18 ภาพ เป็นภาพอันเหลือเชื่อที่เผยให้เราเห็นถึงป่ามะกอกโอลีฟบนเกาะบัลเลียริกซึ่งถ่ายโดย Yan Dieuzaide และภาพของสวนป่ามะกอกโอลีฟท่ามกลางแสงสว่าง โดยฝีแปรงของจิตรกรชาวดัทช์ชื่อดัง แวน โก๊ะ ( ค.ศ.1853 - 1890 ) จิตรกรเอกผู้นี้กล่าวถึงแรงดลใจของตนอย่างเลิศล้ำดังคำพรรณนาต่อไปนี้ " ความงามของต้นมะกอกโอลีฟน่าดึงดูดใจอย่างมาก ผมพยายามซึมซับความงามนี้ มันมีสีเงินยวง บางครั้งสีฟ้าลอยเด่นออกมา แต่บางคราวก็กลับเขียวอีกทั้งน้ำตาลทาบเหลือง สีชมพู ม่วง ส้มหม่น แล้วกลับกลายเป็นสีแดงโอ๊ค มันยาก มันท้าทายมาก แต่ผมชอบ และผมก็ติดพันกับการใช้สีทองและสีเงินกับงานของผม บางทีนะ ผมจะเปลี่ยนมันทั้งหมดเลย เปลี่ยนตามที่ผมชอบ เหมือนกับที่ผมใช้สีเหลืองกับดอกทานตะวันนั่นไง "  นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีงานศิลปะอื่นๆ อีก ตัวอย่างเช่น ภาพพอร์ตเทรตชายหญิงในชนบทท่ามกลางสวนมะกอกโอลีฟ ซึ่งเป็นผลงานของ Zabaleta  จิตรกรชาวสเปน