| 
		|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 กลุ่มยาแก้ไข้ ลดความร้อน  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 มะปราง  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 
		  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bouea macrophylla Griffith  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 ชื่อสามัญ : Marian Plum , Plum Mango  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 วงศ์ : Anacardiaceae  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 ชื่ออื่น : ปราง (ภาคใต้)  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 
		ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : 
		ไม้ต้น
		มีทรงต้นค่อนข้างแหลม มีกิ่งก้านสาขาค่อนข้างทึบต้นโต
		มีขนาดสูง 15-30 เซนติเมตร มีรากแก้วแข็งแรง
		ใบ มะปรางเป็นไม้ผลที่มีใบมาก ใบเรียว 
		ขนาดใบโดยเฉลี่ยกว้าง 3.5 เซนติเมตร ยาว 14 เซนติเมตร 
		ปีหนึ่งมะปรางจะแตกใบอ่อน 1-3 ครั้ง ดอก 
		มะปรางจะมีดอกเป็นช่อ เกิดบริเวณปลายกิ่งแขนง ช่อดอกยาว 8-15 เซนติเมตร 
		เป็นดอกสมบูรณ์เพศ (เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน) 
		ดอกบานจะมีสีเหลือง ในไทยออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
		ผล มีลักษณะทรงกลมรูปไข่และกลม ปลายเรียวแหลม 
		มะปรางช่อหนึ่งมีผล 1-15 ผล ผลดิบมีสีเขียวอ่อน-เขียวเข้มตามอายุของผล 
		ผลสุกมีสีเหลืองหรือเหลืองอมส้ม เปลือกผลนิ่ม 
		เนื้อสีเหลืองแดงส้มออกแดงแล้วแต่ชนิดพันธุ์ รสชาติหวาน-อมหวานอมเปรี้ยว 
		หรือเปรี้ยว-เปรี้ยวจัด เมล็ด มะปรางผลหนึ่งจะมี 
		1 เมล็ด ส่วนผิวของกะลาเมล็ดมีลักษณะเป็นเส้นใย 
		เนื้อของเมล็ดทั้งสีขาวและสีชมพูอมม่วง รสขมฝาดและขม 
		ลักษณะเมล็ดคล้ายเมล็ดมะม่วง หนึ่งเมล็ดเพาะกล้าได้ 1
		ต้น     | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 
		 สรรพคุณ : 
  | 
	|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||