|  | 
	
		| 
		
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 |  |  |  | 
	
		| กลุ่มพืชถอนพิษ | 
	
		| เสลดพังพอนตัวเมีย 
		(พญาปล้องทองง) | 
	
		| 
		 | 
	
		|  | 
	
		| 
		ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Clinacanthus 
		nutans (Burm.f) Lindau.  | 
	
		| ชื่อสามัญ
		:    - | 
	
		| วงศ์
		:   ACANTHACEAE  | 
	
		| ชื่ออื่น
		:  ผักมันไก่ 
		ผักลิ้นเขียด (เชียงใหม่) พญาปล้องดำ (ลำปาง) พญาปล้องทอง (ภาคกลาง) 
		ลิ้นมังกร โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง) เสลดพังพอนตัวเมีย  | 
	
		| 
		
		ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  
		เป็นไม้พุ่มเลื้อย ลำต้นและกิ่งก้านสีเขียว 
		ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปรีแคบขอบขนาน กลีบดอกสีแดงส้ม 
		โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 2 ส่วน ขึ้นตามป่า 
		หรือปลูกกันตามบ้าน ขยายพันธุ์โดยวิธีปักชำ เสลดพังพอนมีชื่อพ้องกัน คือ 
		เสลดพังพอนตัวผู้ และเสลดพังพอนตัวเมีย 
		แต่ต่างกันที่เสลดพังพอนตัวผู้มีหนาม สรรพคุณอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย 
		เพื่อไม่ให้สับสนจึงเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า พญายอ 
		และตำรายาไทยนิยมนำมาทำยา  ส่วนที่ใช้ : ส่วนทั้ง 5  
		ใบสด  ราก
 | 
	
		| สรรพคุณ
		:  
			
			
			ส่วนทั้ง 5  
			-   ใช้ถอนพิษ โดยเฉพาะพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ตะขาบ แมลงป่อง 
			รักษาอาการอักเสบ งูสวัด ลมพิษ แผลน้ำร้อนลวก
			ใบ - 
			นำมาสกัดทำทิงเจอร์และกรีเซอรีน ใช้รักษาแผลผิวหนังชนิดเริ่ม 
			Herpes และรักษาแผลร้อนในในปาก Apthous
			ตับพิษร้อน แก้แผลน้ำร้อนลวก
			ราก  - 
			ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ ขับประจำเดือน แก้ปวดเมื่อยบั้นเอว 
			 
		วิธีและปริมาณที่ใช้ : 
			
			
			รักษาอาการอักเสบ ถอนพิษ รักษาแผลร้อนในในปาก เริม งูสวัด- ใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด 10-20 ใบ 
			(เลือกใบสีเขียวเข้มสดเป็นมันไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป)นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาว 
			คั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำทาแผลและเอากากพอกแผล
 - ใช้ใบเสลดพังพอน 1,000 กรัม หมักใน alcohol 70 %
			1,000 ซีซี. หมักไว้ 7 วัน 
			นำมากรองแล้วเอาไประเหยให้เหลือ 500 ซีซี. เติม glycerine pure
			ลงไปเท่ากับจำนวนที่ระเหยไป (500
			ซีซี.) นำน้ำยาเสลดพังพอนกรีเซอรีนที่ได้ทาแผลเริม 
			งูสวัด แผลร้อนในปาก ถอนพิษต่างๆ
			
			ทาบริเวณที่แมลงสัตว์กัดต่อยเป็นผื่นคัน- ใช้ใบสด 5-10 ใบ ตำขยี้ทาบริเวณที่เป็นแผลที่แพ้ จะยุบหายได้ผลดี
			
			แก้แผลน้ำร้อนลวก- ใช้ใบตำเคี่ยวกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำมันงา 
			เอากากพอกแผลที่ถูกน้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้ แผลจะแห้ง
 - นำใบมาตำให้ละเอียดผสมกับสุรา 
			ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษร้อนได้ดี
 สารเคมี
		:ราก  พบ 
		Betulin, Lupeol, β-sitosterol
 ใบ  พบ Flavonoids
 | 
	
		|  |  |