| 
											
     ครั้งหนึ่ง นานมากประมาณ  
											4,000 ล้านปีมาแล้ว มีสาหร่ายเล็กๆ 
											ตัวหนึ่งเกิดขึ้นมาในโลก 
											เรียกว่าน้องสาหร่าย มีร่างกายเล็กมาก 
											น้องสาหร่ายต่อสู้แย่งชิงพื้นที่อยู่อาศัยกับใครๆ 
											ไม่ค่อยได้  
											แต่น้องสาหร่ายมีดีคือมีคลอโรฟิลด์ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำซึ่งมีมากในบรรยากาศโลกยุคนั้นพร้อมทั้งแสงอาทิตย์สร้างอาหารที่เป็นสารอินทรีย์มีโมเลกุลใหญ่ได้เองไม่ต้องพึ่งพาใคร 
											ทำให้อยู่ที่ไหนก็ได้ที่แสง 
											คาร์บอนไดอออกไซด์ 
											และกระทั่งไอน้ำในอากาศ 
											เป็นที่อิจฉาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย 
											แต่น้องสาหร่ายอ่อนแอไม่สามารถปกป้องตัวเองจากความรุนแรงของสิ่งต่างๆ 
											รอบตัวได้ เช่น แสงอุลตร้าไวโอเล็ตที่ปปนอยู่กับแสงที่น้องสาหร่ายชอบนักชอบหนา 
											นอกจากนี้ยังไม่มีอาวุธที่เป็นสารเคมีป้องกันเจ้าแมลงร้ายที่คอยมาจับกินเป็นอาหาร  
											ยังโชคดีที่น้องสาหร่ายมาพบกับน้องราซึ่งมีขนาดกระจ้อยร่อยเช่นกัน 
											มีดีคนละอย่างกับน้องสาหร่ายคือ 
											น้องราเก่งในทางสร้างสารเคมีที่เป็นสารธรรมชาติใช้ป้องกันตัวเอง  
											แต่น้องราต้องได้อาหารสำเร็จรูปคือสารอินทรีย์ก่อน 
											เพราะน้องราใช้คาร์บอนไดออกไซด์และแสงโดยตรงไม่ได้ 
											นี่คือข้อเสียเปรียบของน้องรา 
											เมื่อทั้งสองต่างก็ได้รับความกดดันจากสิ่งรอบข้างในการดำรงชีวิต 
											และเห็นว่าถ้าต่างคนต่างอยู่คงสู้ใครไม่ได้แน่ๆ 
											อย่ากระนั้นเลย 
											เรามาอยู่ด้วยกันแบบพึ่งพาอาศัยกันดีกว่า 
											แล้ใช้ชื่อว่า 
											ไลเคน 
											เราอยู่ที่ปรัชญาการดำรงชีวิต 
											คือให้และรับอย่างพอดี 
											และไม่ทำอันตรายที่อยู่อาศัยโดยไม่รบกวนหรือทำร้ายที่เกาะอาศัยต่างๆ 
											เช่น เปลือกไม้ วัสดุอื่นๆ 
											และสร้างสารธรรมชาติขึ้นมาปกป้องตัวเองซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสิ่งอื่นๆ 
											ด้วย  
											ในสมัยโบราณชาวบ้านจึงใช้ภูมิปัญญานำเพื่อนไลเคนมาทำอาหาร 
											เครื่องดื่ม สีย้อม ยารักษาโรค 
											ทำบรั่นดี เบียร์ 
											และส่วนประกอบของเครื่องหอมในปัจจุบัน 
												
													|  | 
													
													จากที่น้องราทำหน้าที่ดูดซับความชื้นและธาตุอาหารจากบรรยากาศในเวลากลางคืน 
													พอรุ่งขึ้นตื่นมามีแสงแดด 
													น้องสาหร่ายจึงใช้น้ำและธาตุอาหารที่น้องราดูดซับไว้สังเคราะห์แสงสร้างสารอินทรีย์ไว้แบ่งให้กับน้องรา  
													จนกระทั่งแสงแดดจัดน้ำที่น้องราซับไว้หมด 
													เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีเครื่องป้องกันการระเหยของน้ำเหมือนพืชทั่วไป 
													ทำให้กลไกต่างๆ 
													หยุดลงทั้งสองเข้าสู่ช่วงเวลาพักผ่อนหรือนอนกลางวัน 
													จึงทำให้การเติบโตเป็นไปอย่างช้างๆ 
													ซึ่งเราสามารถใช้เป็นเครื่องมือบอกอายุหินและโบราณวัตถุได้ |  
												
													| 
													          
													จากนั้นมาน้องสาหร่ายกับน้องราก็ชักชวนพรรคพวกพากันมาจับคู่กัน 
													เกิดเป็นรูปร่างที่แตกต่างกันและเป็นเพื่อนกัน 
													ที่พบทั่วไปมี 3 ลักษณะคือ 
													ลักษณะคล้ายฝุ่นผงเรียกว่าเพื่อนครัสโตส 
													( 
													crustose )
													ลักษณะเป็นแผ่นบางๆ 
													เรียกว่าเพื่อนโฟลิโอส (
													foliose
													)
													
													และลักษณะเป็นเส้นสายพุ่มเรียกว่าเพื่อนฟรูทิโคส 
													( 
													fruticose )เพื่อนทั้งสามต่างชอบที่อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันไป 
													เช่น เพื่อนครัสโตสที่มีร่างกายยึดราบไปกับที่เกาะอาศัยสามารถเติบโตและทนอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหรือที่มีมลภาวะ 
													ส่วนเพื่อนโฟลิโอสมีร่างกายบางส่วนยกตัวขึ้นมาในอากาศทำให้มีส่วนร่างกายสัมผัสกับสภาพแวดล้อมดีกว่าจึงชอบอาศัยอยู่ในที่มีมลภาวะน้อย 
													ในขณะที่เพื่อนฟรูทิโคสร่างกายสัมผัสกับอากาศทุกส่วน 
													ไม่ทนต่อบริเวณที่มีมลภาวะ 
													จึงชอบอยู่ในที่ที่อากาศบริสุทธิ์ 
													เราสามารถใช้เพื่อนทั้งสามช่วยบอกถึงคุณภาพของอากาศได้อีกด้วย
 | 
													 |  |